13 มกราคม 2559

Top up 2 Rich แชร์ความเห็นเกี่ยวกับ แชร์ลูกโซ่ 9 Top up ที่ถูกจับ


CR: Kenny Zea  (CEO. TOP UP 2 RICH)

การจะดูว่าธุรกิจเครือข่ายถูกต้องหรือไม่นั้นให้ดูง่ายๆครับ
ถ้าธุรกิจไหนมีแผนการตลาดทีสมาชิกจะมีรายได้ต้องเกิดจากการทำงาน ซึ่งงานพื้นฐานในธุรกิจเครือข่ายมีอยู่ 4 ข้อ
1 การขาย Selling
2 การบริการ Servicing
3 การสปอนเซอร์ Sponsoring
4 การประชุมเพื่อเรียนรู้ Meeting

รายได้จะเกิดจากการทำกิจกรรม
3S+1M นี้เท่านั้น
แต่ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เป็นแชร์ลูกโซ่จะเน้นให้คนเอาเงินมาลงทุน แล้วสัญญาว่าจะได้รับผลตอบแทนเป็น % ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยธนาคาร
แน่นอนครับ คนส่วนใหญ่ที่มีความโลภอยู่ในจิตเป็นทุนอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่ามีบริษัทไหนจ่ายผลกำไรมากกว่าดอกเบี้ยธนาคาร เช่น จ่ายถึง 10% ต่อวันในขณะที่ดอกเบี้ยธนาคารแค่ 2%ต่อปี มันย่อมดึงดูดคนเหล่านี้ให้เอาเงินมาลงทุน เพราะมองเห็นแต่ผลกำไรโดยไม่สนใจว่าธุรกิจนี้จะผิดหรือถูกกฏหมาย โดยคิดว่ามาก่อนรวยก่อน คนมาทีหลังก็รับเคราะห์ไป

ลองคิดดูง่ายๆ ขนาดธนาคารยังไม่สามารถทำกำไรได้ขนาดนี้เลยแล้วบริษัทพวกนี้เอาเงินที่ไหนมาจ่ายนอกจากเงินจากสมาชิกใหม่มาจ่ายให้สมาชิกเก่านั่นเอง มันจึงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่

แน่นอนคนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมด้วยจิตละโมภ ไม่งั้นหวยใต้ดินคงไม่อยู่ในสังคมไทยมายาวนานขนาดนี้ ถ้าคนตระหนักถึงอะไรถูกหรือผิดความเสียหายก็คงไม่เกิด มิจฉาชีพก็ไม่มีทางจะมาหลอกลวงได้
กรณีนี้ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ
การตั้งกระดานขึ้นมาแล้วขาย RP
ให้กับคนลงทุนโดยกำหนดว่าจะจ่ายผลตอบแทนให้10% นั้น แสดงว่า

ถ้ากระดานแรกมีคนลงทุน
1 ล้านบาทบริษัทต้องหาเงินมาจ่าย 1 แสนบาท ก็จะเอาจากคนที่ลงทุนใหม่มาจ่าย โดยตั้งกระดานที่สองขึ้นมา แล้วเอาเงินของคนลงทุนกระดายที่สองมาจ่ายให้กระดานแรกในขณะที่เงินต้น 1ล้านยังคงอยู่ และสมาชิกก็เอา 1 ล้านเดิมลงไปในกระดานที่สอง ซึ่งถ้าไม่ได้ลงเงินจริง บริษัทก็จะไม่มีเงินมาจ่ายพอวนแบบนี้หลายรอบในขณะที่เงินต้น1ล้านยังอยู่แต่ทุกรอบบริษัทต้องหาเงิน 1 แสนมาจ่ายพอจ่ายไป 10 รอบบริษัทก็ขาดทุนแล้วนั่นทำให้บริษัทต้องตั้ง RP สูงขึ้นเรี่อยๆ จนกระดานสุดท้าย สูงถึง 66 ล้าน

รวมทั้งบริษัทนำเงินออกนอกระบบไปซื้อเบนซ์ บ้านที่ดินให้กับกรรมการบริษัทก็ยิ่งทำให้เงินสดหมด ต้องตั้ง
RP ในกระดานสูงเพื่อที่จะได้หาเงินใหม่มาจ่าย ความผิดเกิดทั้งตัวบริษัทเองกรรมการบริษัท รวมถึงคนที่ลงทุนด้วยเพราะโลภเห็นแก่เงินที่จะได้มาง่ายๆ

เจาะข่าวเด่น จับแชร์ลูกโซ่ ธุรกรรมออนไลน์ ตอน1
เจาะข่าวเด่น แชร์ลูกโซ่ ธุรกรรมออนไลน์ ตอน2
https://youtu.be/epjiZ9l3tjA
สถานีประชาชน ตรวจสอบบริษัท 9 Topup ชักชวนร่วมลงทุน



ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับ 9 Top up

9 Topup ธุรกิจทำเงินที่มาแรงที่สุดในขนาดนี้ ด้วยรูปแบบธุรกิจที่เหมาะกับยุคสมัย เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบันที่โลกกำลังหมุนไปอย่างรวดเร็ว อินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบพกพาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ หรือสมาร์ทโฟน ต่างเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว และนั้นก็ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกมาก จะเห็นได้ว่าบริษัทที่เข้ามาดำเนินธุรกิจให้บริการเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม มียอดธุรกิจหลายหมื่นล้านบาทต่อเดือน มาถึงตรงนี้คงรู้แล้วใช่ไหมว่า ถ้าคุณอยากรวยในยุคนี้ คุณจะต้องทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร โอกาสทางธุรกิจมาถึงตัวคุณแล้วง่ายๆ เพียงคุณมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ 9 Topup 
  เพราะการตลาดที่ดึงดูดใจสุดๆ ที่สามารถเปลี่ยนรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ให้เป็นรายได้ ไม่ต้องใช้ความรู้มากมาย แค่คุณใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นใดก็ได้ ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจนี้ได้ทันที นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่คุณจะได้รับรายได้จากค่าใช้จ่ายของคนทั้งประเทศกับ9 Topup คุณพร้อมหรือยังที่จะรับรายได้เดือนละแสน?สนใจร่วมธุรกิจ ติดต่อ บริษัท ไนน์ ท๊อปอัพ จำกัด      128/69 อาคารพญาไทพลาช่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท ราชเทวี กรุงเทพฯ10400 โทรศัพท์ 080-620 3458, 091-105 7796 เวลา 10.00-21.00 .
บริษัท ไนน์ท๊อปอัพ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ..2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยการรวมตัวกันของทีมวิศวกร โปรแกรมเมอร์ นักธุรกิจ และนักการตลาด มืออาชีพที่มีประสบการณ์สูง ด้วยการทำงานที่เน้นระบบทีมจึงทำให้เราแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพในการทำงาน สูง
9Topup คือ เคาน์เตอร์เซอร์วิสออนไลน์ส่วนตัว ที่ให้บริการหลากหลายในการรับชำระบิลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์มือถือทั้งแบบเติมเงิน และรายเดือน รวมไปถึงการรับชำค่าบริการสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าบัตรเครดิต ค่าบัตรทางด่วน ค่าน้ำมัน และอื่นๆ อีกมากมายที่จะมีขึ้นในอนาคต สมาชิกสามารถดำเนินการชำระบิลได้แบบออนไลน์ตลอด 24 ชม. ทำให้สะดวก รวดเร็ว ลดค่าใช้จ่าย และที่สำคัญยังมีผลตอบแทนกลับคืนสู่สมาชิกทุกครั้งที่ทำรายการ
ปัจจุบัน 9Topup ได้จัดทำระบบ STS : Smart Topup System ระบบ STS คือ ระบบเติมเงินมือถือที่ใช้งานง่ายที่สุด โดยระบบจะเปลี่ยนมือถือของคุณจากเครื่องเดิม เบอร์เดิม ให้กลายเป็นตู้เติมเงินออนไลน์ได้ทันที ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยล่าสุด จึงทำให้คุณสามารถเติมเงินมือถือได้ทุกที ทุกเวลา ตามต้องการ

9Topup ตระหนักเสมอว่าธุรกิจของเราคือธุรกิจให้บริการ จึงมีนโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจด้วยการให้บริการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความ จริงใจและมีคุณภาพ เพื่อให้เกิดความประทับใจสูงสุดแก่ลูกค้าและสมาชิกของเราทุกคน
สินค้าและบริการของ 9Topup
 1. บริการเติมเงินมือถือออนไลน์ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของการเติมเงินมือถือที่เราเรียกว่า ระบบ STS (Smart Topup System ) ซึ่งเป็นระบบเติมเงินมือถือที่ใช้งานง่ายที่สุด ระบบจะเปลี่ยนมือถือ ของคุณจากเครื่องเดิม เบอร์เดิมไม่ว่ารุ่นไหนก็ตามให้กลายเป็นตู้เติมเงินออนไลน์ได้ทันที เครือข่ายที่สมารถเติมได้ดังนี้ AIS , DTAC , TRUE-MOVE , TRUE-MOVE H นอกจากจะเติมเงินด้วยมือถือได้แล้วระบบยังสามารถเติมผ่านอินเตอร์เน็ตได้อีก ด้วย โดยเข้าไปที่ http://www.9topup.com
2.เคาน์เตอร์เซอร์วิสออนไลน์ เป็นบริการรับชำระบิลสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์แบบรายเดือน ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าบัตรเครดิต และอื่นๆ สมาชิกสามารถทำรายการแบบออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ตลอด 24 ชม. ทำให้สะดววก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย
3.บริการเติมเงินบัตรเงินสด
4.บริการเติมเงินบัตรทางด่วน
5.บริการจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์

แฉ!“ไนน์ท๊อปอัพ”ฉาวพันล้านบ. DSIเตรียมรับเป็นคดีพิเศษแชร์ฯ!
 “สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ฯ” เปิดโปงขบวนการลวงเงินชาวบ้านของ “ไนน์ท๊อปอัพ” ปฏิบัติการล่อเหยื่อติดเบ็ดอิงตลาดเครือข่ายขายตรงอีกรายกับสินค้า“เติมร้อย ได้ล้าน” พร้อมยื่นหนังสือ-เอกสาร “สรุปยอดร้องเรียน” กว่า 800 คน มูลค่าเสียหายนับ 1,000 ล้านบาท ถึง “รัฐมนตรียุติธรรม” ก่อนส่งต่อ “ผบ.ตร.” ดันลูกให้ “ดีเอสไอ” รับเรื่องเป็น “คดีพิเศษ” เข้าข่าย “แชร์ลูกโซ่” ล่าสุดพบ “แกนนำใหญ่” โอนเงินซุกหลานสาวกว่า 17 ล้านบาท
สืบเนื่องจากการที่ “สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย” โดย นายสามารถ  เจนชัยจิตรวนิชประธานสมาพันธ์ฯ ได้ติดตามพฤติการณ์การดำเนินธุรกิจของ บริษัทไนน์ ท๊อปอัพ จำกัด(9Topup) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558  เนื่องจากพบว่า เข้าข่ายการระดมทุนในลักษณะ “แชร์ลูกโซ่” หรือฉ้อโกงประชาชน ณ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เตรียมรับเป็นคดีพิเศษในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เนื่องจากมีผู้เสียหายมากกว่า 800 คน มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท
เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กันยายน นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เส้นทางนักขายว่า จากการที่มีผู้เสียหายกว่า 800 คน มายื่นหนังสือร้องเรียนผ่านทางสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทยว่า ได้รับความเสียหายจากการลงทุนในธุรกิจเติมเงินโทรศัพท์มือถือ บริษัท ไนน์ท๊อปอัพ จำกัด (9Topup) ที่มีสโลแกนคุ้นหูคนไทยว่า “เติมร้อย ได้ล้าน”เข้าข่ายการดำเนินธุรกิจในลักษณะ “แชร์ลูกโซ่” หรือฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมูลค่าความเสียหายขณะนี้ กว่า 800 ร้อยล้านบาท โดยทางสมาพันธ์ฯได้เกาะติดเรื่องนี้อย่างไม่คาดสายตา และกำลังดำเนินการในเชิงรุก
“ทางสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทยได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และทำหนังสืออีกฉบับหนึ่งถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผ่านไปยัง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร./โฆษก ตร.ว่า บริษัท ไนน์ท๊อปอัพ จำกัด (9Topup) ดำเนินธุรกิจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ฉ้อโกงประชาชน เพราะดำเนินธุรกิจใน 2 ลักษณะ1.เติมเงิน 2.ระดมทุน แบบที่ขอ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) คือ ลักษณะที่ 1 เติมเงิน แผนการตลาด A1 A2 A3 ตามที่ไนน์ท๊อปอัพได้ขอ สคบ. ส่วนอีกแบบหนึ่งคือแบบระดมทุน หรือมีโกลด์พอยท์ Glow Point หรือ GP มีระบบ SPS ที่สามารถเอา AP มาแลกเป็นเงินได้ คล้ายกับ U-TOKENของยูฟัน ทางสมาพันธ์ฯ จึงได้ทำหนังสือไปถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการปราบปราม พี่น้องประชาชนจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ”นายสามารถกล่าว และว่า
ในระหว่างที่สมาพันธ์ฯ กำลังดำเนินการในเรื่องนี้ ได้มีแม่ทีมของไนน์ท๊อปอัพออกมาโจมตีสมาพันธ์ฯ อย่างต่อเนื่อง มีการขู่ว่าจะฟ้องร้องที่ทางสมาพันธ์ฯ ทำให้บริษัทไนน์ท๊อปอัพได้รับความเสียหาย แต่สมาพันธ์ฯ ไม่ได้เกรงกลัว และยังคงยืนหยัดและต่อสู้ต่อไป เพื่อที่จะไม่ให้พี่น้องประชาชนคนไทยตกเป็นเหยื่อของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ หรือได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้อีกแล้ว ณ ขณะนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า ได้ส่งเรื่องให้กับปลัดกระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบ และได้ส่งต่อไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ให้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว
ทั้งนี้ ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศยังได้ยืนยันหนักแน่นว่า จะทำงานในเชิงรุกในการติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ทางสมาพันธ์ฯ ได้ส่งหนังสือไปยังผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 DSI พ.ต.ต.สุริยา สิงหโกมล เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะให้เรื่องทั้งหมดมาบรรจบกันพอดี
จากการตรวจสอบของหนังสือพิมพ์เส้นทางนักขายพบว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายจากการลงทุนในบริษัทไนน์ท๊อปอัพ จำกัด ที่มาร้องเรียนผ่านทางสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่กว่า 800 คนจริงผู้เสียหายบางรายสูญเสียเงินไปนับสิบล้านบาท และมีผู้เสียหายที่เป็น “ลูกทีม” สูญเสียเงินไปไม่น้อยกว่าหลักหมื่นบาท นั้น มีเป็นจำนวนมาก คาดว่าความเสียหายทั้งหมด ขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท และหากสืบทราบได้ในอนาคต คาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เพราะเหตุนี้จึงคาดการณ์ได้ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI น่าจะนับเป็นคดีพิเศษในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากนับพันคน และมีวงเงินที่ได้รับความเสียหายนับพันล้านบาท
นายสามารถกล่าวว่า ไนน์ท๊อปอัพเริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 อีกไม่ถึงเดือนก็ครบรอบ 1 ปี ในเดือนตุลาคม 2558 อาจเป็นเพราะเล็งเห็นว่า ต้นแบบคือธุรกิจยูฟัน ยังดำเนินธุรกิจได้อยู่ในตอนนั้น ก็เลยเกิดการก๊อปปี้ หรือลอกเลียนแบบ ซึ่งที่ผ่านมาสมาพันธ์ฯ ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนว่ามีธุรกิจแชร์ลูกโซ่ในลักษณะนี้หลากหลายบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางจังหวัดภาคอีสาน  ขณะนี้ ไนน์ท๊อปอัพได้ปิดเซิฟเวอร์หน้าจอเรียบร้อยแล้ว ทางผู้เสียหายไม่สามารถเข้าไปดู หรือไปทำนิติกรรมใดๆได้ และไม่สามารถเข้าไปเก็บข้อมูลได้อีกด้วย
“ตรงนี้อยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนคนไทยว่า รายละเอียดตรงนี้สำคัญมากๆ ในขณะที่คุณกำลังทำธุรกิจในลักษณะนี้ จะต้องเซฟหรือบันทึกหน้าจอลายระเอียดต่างๆ เก็บไว้ทั้งหมด เพราะที่บริษัทเหล่านี้บอกว่าจะคืนเงินค่าเสียหายให้กับสมาชิก คือ การซื้อเวลาไปวันๆ เท่านั้นเองแล้วก็ปิดเซิฟเวอร์หน้าจอ หลักฐานทั้งหมดก็สูญหายไป เพราะเหตุนี้ผู้เสียหาย หรือสมาชิก จึงไม่เคยได้รับเงินคืน” ประธานสมาพันธ์ฯ ย้ำหนักแน่น
ทั้งนี้จากการให้ปากคำของผู้เสียหายทั้ง 800 คน ที่ร้องเรียนผ่านสมาพันธ์ฯ ได้ยืนยันตรงกันว่า เงินที่เป็นรายได้ และผลกำไรของ บริษัท ไนน์ท๊อปอัพ กำจัด ทั้งหมด ได้โอนผ่านบัญชีส่วนตัวของ นายสิทธิไกร ตลับนาค เพียงคนเดียว ซึ่งผิดวิสัยของการดำเนินธุรกิจในลักษณะโปร่งใส ตรวจสอบได้ น่าจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ฉ้อโกงประชาชน
“บริษัทไนน์ท๊อปอัพ จำกัด มีกรรมการ 4 คน แต่จากที่ผู้เสียหายทั้ง 800 คน ได้ร้องเรียนผ่านทางสมาพันธ์ฯ พบว่าเงินทั้งหมดกลับโอนผ่านเข้าบัญชีส่วนตัวของ นายสิทธิไกร ตลับนาค หนึ่งในกรรมการเพียงคนเดียว ซึ่งบัญชีของนายสิทธิไกรถูกเปิดไว้ทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศไทย มีนับร้อยบัญชีเงินฝาก หลากหลายธนาคารซึ่งตรงนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ว่าการทำธุรกิจใดๆ เงินจะต้องโอนผ่านเข้ามายังบัญชีของบริษัท เพราะจะได้สามารถตรวจสอบได้ ทั้งในเรื่องภาษี และในเรื่องความโปร่งใสของเส้นทางการเงิน ทราบรายได้และผลกำไรที่ชัดเจน ซึ่งตรงนี้เป็นข้อมูลที่ทางสมาพันธ์ฯ ได้รับมาจากผู้เสียหายทั้ง 800 คนโดยตรง ก็น่าเชื่อถือได้ และเชื่อว่าได้ว่าผู้เสียหายน่าจะถูกหลอก ถูกโกง ทั้งนี้ผู้เสียหายทั้ง 800 คน ได้ยืนยันว่า นายสิทธิไกร ตลับนาค ได้ชี้แจงเหตุผลที่ให้โอนเงินในการดำเนินธุรกิจไนน์ท๊อปอัพทั้งหมดเข้าบัญชีตัวเองว่า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำธุรกิจ หากโอนเข้าบัญชีบริษัทก็จะเกิดความล่าช้ายุ่งยาก ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องของเทคนิคการหลอกลวง จะเห็นได้ว่าพฤติการณ์แบบนี้เข้าข่ายการหลอกลวงประชาชน และแชร์ลูกโซ่” นายสามารถกล่าว
ประธานสมาพันธ์ฯ กล่าวทิ้งท้ายหนักแน่นว่า จากการที่สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทยร่วมกับ DSI สืบสวนร่วมนี้ ขณะนี้พบว่า นายสิทธิไกร ตลับนาค ได้มีการยักย้ายถ่ายเทโอนเงินในบัญชีไปให้กับหลานของตัวเอง จำนวน 17 ล้านบาท และได้มีการโอนเงินออกไปจากบัญชีอีกหลายรายการ ซึ่งความคืบหน้าของคดีนี้ในเร็ววันนี้น่าจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหา และทางสมาพันธ์ฯ คาดว่า DSI ต้องรับเป็นคดีพิเศษ เพราะมีพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก มีมูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท
เส้นทางนักขาย ฉบับที่ 309 วันที่ 1-15 ตุลาคม 2558


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น